28
Products
reviewed
171
Products
in account

Recent reviews by Mr.Panda

< 1  2  3 >
Showing 1-10 of 28 entries
3 people found this review helpful
40.5 hrs on record (9.6 hrs at review time)
รีวิวแบบรวบรัด Total War: Pharaoh Dynasties เพราะตูรีวิวเป็นรอบที่ 3 แล้วเนี่ย 😑
.
ข้อดี
+ อัพเดตฟรีจนเหมือนได้ตัวเกมใหม่ เหลือแค่ DLC เลือดที่ต้องซื้อเพิ่ม
+ เกมลดราคาตอนนี้เหลือ 500 กว่าบาท ราคาพอๆกับเกมอินดี้
+ เพิ่มฝ่ายหลักใหม่ 4 ฝ่าย กรีกทรอยเมโสโปเตเมีย ฝ่ายย่อยใหม่ 25 ฝ่าย ยูนิตใหม่ 150 ตัว Legacy ใหม่ 4 สาย แผนที่ใหญ่กว่าเดิม 2 เท่า
+ ระบบ Lethality ช่วยให้เกมมีแท็คติคมากขึ้น พลขวาน พลกระบอง อาวุธยิงไกลมีความสำคัญขึ้น
+ พลธนูสามารถปรับวิถีกระสุนได้ จะยิงตรงยิงย้อยก็ทำได้ละ
+ มีทหารม้ากับทหารอูฐให้ใช้แล้ว ชาร์จแรงมากแต่ก็ตายง่ายเช่นกัน
+ ผังตระกูลกลับมาแล้ว มีเมียมีลูกได้ ตัวละครแก่ตายได้ แล้วมีการเข้าร่วมผังตระกูลผู้นำสูงสุดเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ด้วย
+ โหมดสุ่มจุดเกิดบันเทิงกว่าเดิม เพราะแผนที่ใหญ่ขึ้นและยูนิตท้องถิ่นเยอะขึ้น อาจได้เห็นสภา Woke หลากเชื้อชาติ
+ ชาวทะเลเป็นฝ่ายที่มีระบบเผ่าเร่ร่อนดีที่สุดในเฟรนไชส์
+ ระบบสภาแบบใช้สภาเดียวกันทุกฝ่าย เล่น Coop กับเพื่อนก็กวนตีนมันในสภาได้
+ ตัวละครภาค Troy กลับมากันเกือบหมด ไม่มีเหตุผลต้องซื้อภาค Troy อีกต่อไป (ยกเว้นอยากเล่นสาว Amazon)
.
ข้อเสีย
- Optimize กากลง โดยเฉพาะเวลาโหลดข้ามเทิร์นที่นานขึ้นพอสมควร
- UI สวยแต่ยังใช้งานยากเหมือนเดิม
- ยูนิตการ์ดแบบ 2D ดูยากชิบ น่าจะปรับลายเส้นแตกต่างไปตามอารยธรรมแบบตอน Rome 2
- บอทชอบสไนป์แม่ทัพ แล้วตอนนี้คือตัวละครตายจริงแล้วไง หลายคนเผลอทำตัวละครหลักตายตั้งแต่เทิร์นแรกเลย
- ผังเทคโนโลยีอย่างโง่ น่าจะมีลูกเล่นแตกต่างกันไปตามอารยธรรมหน่อย
- เทพกรีกเอามาแค่ 5 องค์ น่าจะเอามาให้ครบไปเลย
- การบุกของชาวทะเลดูอ่อนลง เกจ Collapse แทบไม่ลดเลย
.
สรุปคะแนน 8/10
เกมราคาเท่า Thrones of Britannia แต่ให้คอนเทนท์เยอะกว่า 3-4 เท่า ตอนนี้ลดราคาเหลือ 500 กว่าบาท ถูกเท่ากับ DLC Warhammer 3 ตัวนึง เรื่องความคุ้มค่า+คอนเทนท์คงไม่ต้องพูดนะ มันดีกว่าช่วงเกมเปิดเมื่อปีก่อนมาก ถ้าทำแบบนี้มาแต่แรกก็ไม่โดนด่าแล้ว ก็ยังดีที่มีสปิริต (หรือเสียวโดนปิด) กลับมาอัพเดตใหญ่ให้ฟรี ตอนนี้เลยกลายเป็นเกม Bronze Age ที่ดีเกมนึง ที่เหลือก็แล้วแต่จริตของแต่ละคนแล้วละว่าจะชอบมั้ย
Posted 28 July.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
1 person found this review helpful
80.3 hrs on record (19.1 hrs at review time)
รีวิวเกม Warhammer 40,000: Darktide นี่คือ Suicide Squad ในจักรวาล Warhammer 40K ชัดๆ เมื่อดาวดวงนึงถูกสาวกเคออสเข้ายึดครอง จักรวรรดิกำลังขาดแคลนกำลังคน จึงได้เกณฑ์เหล่านักโทษมาช่วยรบในนามของหน่วย Reject เกมนี้ยังถูกสร้างโดยสตูดิโอ Fatshark ผู้สร้างเกม Vermintide ทั้งสองภาค ผมจึงจะเอาไปเทียบกับเกม Vermintide เยอะหน่อยนะ
.
ข้อดี
.
- เมคานิคการต่อสู้ระยะประชิดยกมาจาก Vermintide ทั้งดุ้นเลย แต่ของมันดีอยู่อันนี้ไม่ว่ากัน แล้วก็มีการปรับปรุงให้อาวุธยิงมีประสิทธิภาพมากขึ้น เกม Darktide จึงสามารถโฟกัสได้ทั้งประชิดและยิง ต่างจาก Vermintide ที่เน้นประชิดเป็นหลัก
- ตัวละครในเกมนี้สามารถเลือก Class ซ้ำกันได้แล้ว จะเล่นคนยักษ์ Ogryn ทั้งปาร์ตี้เลยก็ได้ แตกต่างจากใน Vermintide ที่ต้องมาแย่งกันเลือกตัวละคร ใครมาก่อนได้ก่อน
- ไอเท็มระดับสูงในเกมนี้ดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดรอปจากด่านหรืออัพเกรดเอง แตกต่างจากใน Vermintide ที่กว่าจะได้ไอเท็มสีแดงมาแต่ละชิ้นยากเย็นเหลือเกิน
- Skill Tree ของเกมนี้ทำออกมาได้ดีมาก ตัวละครทุกตัวจะมีสกิลเกือบ 100 อัน ทำให้สามารถบิวด์ตัวละครได้หลากหลายกว่า Vermintide เยอะ ของ Vermintide นี่ตัวละครจะมีสกิลแค่ 18 อันเอง
- เกมนี้ไม่มี Friendly Fire เหมือนใน Vermintide ซึ่งก็ดีแล้วละ เพราะเกมนี้ปืนโหดกันทุกตัว ขืนมีนี่น่าจะตายเพราะเพื่อนร่วมทีมเป็นหลักแน่
- มีภารกิจประจำสัปดาห์ให้รับเหมือน Vermintide อยู่ เอาไว้แลกไอเท็มหรือกล่องสุ่มของ แล้วก็มีให้เก็บ Achievement ในเกมมาแลกเป็นสกินฟรีด้วย
- เกมสามารถปรับ Field of View ได้กว้างอยู่ แล้วก็โทนภาพจะอยู่ในที่มืดที่ไม่ค่อยมีแสงสี ทำให้มีโอกาสเกิดอาการ Motion Sickness น้อย ขนาดผมที่เวียนหัวกับเกม FPS บ่อยๆยังเล่นได้
.
ข้อเสีย
.
- Fatshark (ฉลามอ้วน) ชื่อนี้การันตีได้ว่าอัพเดตเกมช้าตลอด Darktide นี่ก็ผ่านมาปีครึ่งแล้ว ยังไม่มีข่าวโหมดใหม่หรือ DLC ใหม่เลยเนี่ย
- สกินตัวละครในร้านเติมเงินแม่งโคตรแพง สกินนึงสามารถซื้อเกมอินดี้ได้เกมนึงเลย แล้วสกินเท่ๆต้องเติมเงินซื้ออย่างเดียวด้วยนะ สกินที่ใช้เงินในเกมซื้อก็มีแต่ของโหลๆเปลี่ยนสีเปลี่ยนลายเสื้อ
- ถึงแม้จะบิวด์ตัวละครได้หลากหลาย แต่มีตัวละครแค่ 4 Class ก็ยังน้อยเกินไปอยู่ดี หวังว่าอนาคตจะมี Class ใหม่เพิ่มเข้ามา อย่างเช่น Ratling Squat หรือ Skitarii
.
สรุปคะแนน 8/10
Warhammer 40,000: Darktide คือเกมแอคชั่นของจักรวาล Warhammer 40K ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย (อย่างน้อยก็จนกว่า Space Marine 2 จะออก) ถึงแม้เกมจะเปิดตัวมาแป๊กกว่าที่คิด แต่หลังจากอัพเดต Skill Tree กับแพทซ์ย่อยหลายครั้ง เกมก็ดูดีกว่าเดิมพอสมควร สามารถเล่นซ้ำได้บ่อย เล่นกับเพื่อนก็สนุก ขึ้นทำเนียบเกม 100 ชั่วโมงอีกเกม ถ้าซื้อตอนลดราคายังไงก็คุ้มเงินที่จ่ายไปแน่นอน แล้วก็เอาเงินทอนมาซื้อสกินสนองนี๊ดต่อ 555
.
เหมาะสำหรับ
- คนที่ชอบ Warhammer 40K
- คนที่ชอบเกม Vermintide ทั้งสองภาค
- คนที่ชอบเกม FPS กึ่งไซไฟ
Posted 5 June.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
5 people found this review helpful
1 person found this review funny
122.5 hrs on record
(อัพเดตหลังเล่นไป 100 ชั่วโมง) (มีสปอยเล็กน้อย)
.
รีวิวเกม Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes เกมภาคหลักของจักรวาล Eiyuden ผู้สืบทอดจิตวิญญานของเกม JRPG ระดับตำนานช่วงยุค 90 อย่าง Genso Suikoden หลังจากเปิด Kickstarter ตั้งแต่ปี 2020 ในที่สุดตัวเกมจริงก็ปล่อยให้เล่นเสียที
.
ข้อดี
.
- ตัวเกมมีตัวละครให้เล่นกว่า 120 คน มีคละทุกเผ่าพันธุ์ทุกกิมมิค มนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ สาวน้อยเวทมนตร์ ซามูไร มนุษย์ต้นไม้ มิโนทอร์ มนุษย์ฉลาม มนุษย์จิงโจ้ มนุษย์คาพิบาร่า(?) ยูกิโอ(??) ไปจนถึงเบย์เบลด(???) ต้องบอกว่าดีไซน์คาแร็คเตอร์หลากหลายกว่าสมัยเกม Suikoden เสียอีก บางตัวแค่เห็นหน้าก็หัวเราะท้องแข็งแล้ว
- เล่นไปซักพักจะมีฐานทัพให้สร้าง ถือเป็นจุดขายหลักเหมือนสมัยเกม Suikoden ที่ตัวละครมาเข้าร่วมและช่วยกันพัฒนาฐานทัพ เพิ่มร้านค้าใหม่ๆ มินิเกมใหม่ๆ ทำให้มีอะไรให้ทำเยอะขึ้น การได้ดูฐานทัพค่อยๆเติบโตจนกลายเป็นเมืองใหญ่ยังทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจมาก ระบบสร้างฐานเกมนี้ยังมีความลึกกว่าเดิมด้วย มีระบบประชากรที่ส่งผลต่อจำนวนทหารในสนามรบ ระบบผังอัพเกรดที่ต้องไล่อัพเกรดไปทีละขั้นและต้องออกไปหาทรัพยากรมาใช้อัพเกรดด้วย
- การต่อสู้สามารถจัดปาร์ตี้ลงได้สูงสุด 6 ตัวละคร แบ่งเป็นแถวหน้ากับแถวหลัง ทำให้เราบิวด์ปาร์ตี้ได้หลากหลายมากเพราะตัวละครเกมนี้มันเยอะ แต่ละตัวก็มีสเตตัส สกิลและการเติบโตไม่เหมือนกัน แล้วก็มีช่องตัวละคร Support ไว้แจกบัพ กับช่อง Attendant ไว้ใส่ตัวละครดำเนินเนื้อเรื่อง ไม่ต้องถูกบังคับจับลงต่อสู้เหมือนสมัยเกม Suikoden แล้ว
- นอกจากการต่อสู้ปกติ ยังมีการต่อสู้แบบกิมมิคที่มักเจอเวลาสู้กับบอส เช่น สู้บอสปลาหมึกสายฟ้าต้องคอยเปิดประตูระบายน้ำ ไม่งั้นถ้าน้ำขึ้นสูงโดนไฟช๊อตตายกันหมด แล้วก็ยังมีการรบในสงครามที่ให้เราบังคับกองทัพเดินสู้กันแบบหมากรุก กับการดวลเดี่ยวที่ให้ตัวละครเราท้าดวลกับศัตรูแบบ 1-1 ด้วย
- มินิเกมในเกมนี้มีเยอะมาก มีทั้งเกมการ์ด เบย์เบลด สนามแข่งม้า ทำอาหาร ตกปลา แข่งเรือและเล่นละครเวที แล้วก็ยังมีไต่หอไปสู้กับบอสตัวเก่าๆเพื่อฟาร์มไอเท็มกับวัดแรงค์ด้วย เรียกได้ว่ามีอะไรให้ทำเยอะจนบางทีลืมเนื้อเรื่องหลักไปเลยก็มี
- ผู้พัฒนาเคลมว่าเกมนี้มีเนื้อเรื่องหลัก 40 ชั่วโมง แต่ถ้ารวมเนื้อเรื่องย่อยและมินิเกมทั้งหมด ยังไงก็ใช้เวลาเล่นเกิน 100 ชั่วโมงแน่ๆ ถ้าเป็นคนเล่นแบบชิวๆออกสำรวจไปเรื่อยๆ ยังไงก็คุ้มเงินที่ซื้อแน่นอน
.
ข้อเสีย
.
- ตัวเกมแปลซับอังกฤษได้ห่วยแตกมาก บางจุดก็ใช้คำแปลกๆอย่างเช่น Aniki (ลูกพี่-ญี่ปุ่น) ก็แปลเป็น Cousin (ลูกพี่ลูกน้อง-อังกฤษ) เฉย บางทีตัวละครพูดแค่ 2 คำแต่เล่นแปลออกมา 2 ประโยค น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลง มันยังทำให้ตัวละครหลายตัวดูมีบุคลิกเปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นต้นฉบับด้วย
- เกมมัน Old School จัดๆ ทุกอย่างมันเลยดูช้าเนิบนาบไปหมด ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ที่เร่งความเร็วไม่ได้ พัซเซิลที่ใช้เวลาแก้ปริศนาค่อนข้างนาน ขนาดระบบเกมบางอย่างยังไม่มีบอกในหน้า Encyclopedia เลยอะ ต้องมางมลองผิดลองถูกเอง แต่บางคนไม่ได้มีเวลาเล่นขนาดนั้นไง
- ตัวละครบางตัวต้องเล่นมินิเกมถึงจะชวนเข้าร่วมได้ แล้วใช้เวลาเล่นเกือบ 20 ชั่วโมงกว่าจะจบ บางมินิเกมมีบัคอีก โคตรนานโคตรน่าเบื่อ จะไม่ทำก็ไม่ได้เดี๋ยวตัวละครไม่ครบอด Good End พอทนเล่นจนจบก็แทบจะหมดแพชชั่นเล่นเกมต่อเลย จริงๆมินิเกมควรเป็นแค่มินิเกม ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นรึเปล่า มีของรางวัลเป็นไอเท็มพิเศษหรือของตกแต่งอะไรก็ว่าไป ไม่ใช่เอาตัวละครหลักมาผูกกับมินิเกมแบบนี้
- เนื้อเรื่องหลักผมว่ามันจืดไปหน่อย คือมันบิวด์ดราม่าให้ตัวเอกอย่าง Nowa และ Seign ที่เป็นเพื่อนกันต้องมาสู้กันในสงคราม แต่พวกเอ็งสองตัวพึ่งเจอกันแค่วันเดียวไม่ใช่เหรอวะ เข้าใจว่าพยายามเลียนแบบ Riou กับ Jowy ในเกม Suikoden 2 แต่สองคนนั้นทำได้ดราม่ากว่าเยอะ อีกอย่างเกมนี้เหมือนลดระดับความโหดลงมาด้วย ตอนสมัยเกม Suikoden 2 ช่วงแรกนี่โคตรดาร์กตายกันเป็นเบือจนผู้เล่นหลอนเลย
- เพลง Flags of Brave ร้องโดย Sarah Àlainn เป็นเพลงประกอบที่เพราะมาก แต่รู้สึกหยิบมารีมิกซ์หลายๆเวอร์ชั่นแล้วใช้บ่อยไปหน่อย ส่วนเพลงประกอบอันอื่นๆนี่ไม่ติดหูเลย เพลงสมัยเกม Suikoden 2 ดูมีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่าเยอะ
.
สรุปคะแนน 6.5/10
Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes คือเกม JRPG ยุคเก่าที่พยายามปรับตัวเข้ากับโลกยุคใหม่ ที่ทุกอย่างต้องเร็วต้องง่ายต้องมีคนคอยจูงมือนำทาง แต่เกมนี้จะตรงกันข้ามทุกอย่าง ผู้เล่นต้องค่อยๆเรียนรู้ด้วยตัวเองและไกรดิ้งเยอะ ทำให้เป็นเกมที่ใช้เวลาเล่นนานและไม่น่าถูกใจคนยุคใหม่เท่าไหร่ แต่เป้าหมายเขาชัดเจนแต่แรกว่าทำมาขายเด็กหนวดครับ เกมมันมีสเน่ห์ที่เกม RPG ในสมัยนี้ไม่ค่อยมีกัน คอนเทนท์เกมก็เยอะเล่นได้ยาวๆเป็น 100 ชั่วโมง แต่เกมแบบนี้ถ้าคนไม่ชอบก็คงเกลียดไปเลยแหละ ต่อไปจะหาเกมแบบนี้ได้อีกรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะนี่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของอาจารย์มุรายามะก่อนจะเสียด้วย ต่อให้บริษัทบอกมีแผนจะทำภาคต่อก็เหอะ
.
เหมาะสำหรับ
- เด็กหนวดแฟนๆเกม Suikoden ยุคเก่า
- คนที่ชอบเกม JRPG คอนเทนท์แน่นๆ
- คนที่อยากไว้อาลัยอาจารย์มุรายามะ
Posted 23 April. Last edited 10 October.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
14 people found this review helpful
58.9 hrs on record (56.7 hrs at review time)
รีวิวเกม Total War: Pharaoh เกม Total War ภาคใหม่ที่เปิดตัวมาประสบความล้มเหลวมากที่สุด ด้วยยอดผู้เล่นพีคสุดวันเปิดตัวแค่ 5000 คนเท่านั้น ส่วนตอนนี้ก็มีผู้เล่นเฉลี่ยต่อวันแค่ไม่กี่ร้อยคน เกมมันไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอไปดูกันเลย
.
ข้อดี
.
- จุดที่ทีมผู้สร้าง CA Sofia ทำได้ดีเสมอมาก็คือเรื่องของการ Optimize กราฟฟิคเกม Total War: Pharaoh นั้นกินสเปคคอมน้อยมาก เกมทำออกมาได้ลื่นไหลสุดๆทั้งในฉากแคมเปญและฉากต่อสู้ ยิ่งเทียบกับภาคไล่ๆกันอย่าง Total War: Warhammer 3 ยิ่งเห็นความต่างชัดเจน ภาคนั้นกินสเปคหนักกว่าแบบคนละโลกเลย
- ระบบแคมเปญทำออกมากลมกล่อมมาก อย่างระบบสภาภาคนี้ทุกฝ่ายจะใช้สภาร่วมกันหมด ทำให้การเมืองในสภาเข้มข้นกว่าภาคอื่น มีการแย่งชิงเก้าอี้คานอำนาจกันสนุกใช้ได้เลย มีระบบ Legacy ที่ให้ผู้เล่นเลือกเส้นทางการเล่น แต่ละเส้นทางก็จะได้ระบบพิเศษแตกต่างกันไป ระบบศาสนาที่ต้องค้นหาเทพเจ้าก่อนถึงจะบูชาได้ แล้วก็มีการนำระบบเก่าดีๆจากภาคก่อนกลับมาใช้ด้วย อย่างเช่น ระบบ Outpost จากภาค Empire หรือ ระบบทรัพยากร 5 อย่างจากภาค Troy
- ระบบ Horde ของชาวทะเลในภาคนี้ผมยกให้ดีที่สุดในทุกภาคเลย เพราะมันเป็น Hybrid Horde สามารถสร้างเมืองและสร้างกระโจมไปพร้อมกันได้ ไม่ได้บังคับให้เล่นทางใดทางหนึ่งแบบภาคเก่าๆ แต่ก็ต้องคอยบาลานซ์ให้มันสมดุลกัน กองทัพปกติจะได้บัพลด Upkeep ทำให้สร้างได้ง่ายกว่าช่วงต้นเกม แต่ช่วงเลทเกมกองทัพที่เป็น Horde และมีสิ่งก่อสร้างครบจะมีบัพเสริมเพียบทำให้โหดกว่ามาก แล้วก็ระบบ Horde ยังมีลูกเล่นกับระบบศาสนาและ Outpost อีก
- ระบบแม่ทัพภาคนี้จะมีบอดี้การ์ดตามปกติแล้ว เวลาเราสวมใส่อุปกรณ์ให้แม่ทัพก็จะส่งผลต่อบอดี้การ์ดด้วย Skill Tree ภาคนี้จะให้อัพแต้ม 3 สายคล้ายภาค Thrones of Britannia แต่จะมีปลดล็อคฉายามาให้เลือกสวมเพื่อรับบัพเพิ่มเติมด้วย แม่ทัพแต่ละอารยธรรมก็จะมีฉายาไม่เหมือนกัน อย่างของชาวทะเลจะมีฉายาที่สวมใส่แล้วกดท้าดวลกับแม่ทัพศัตรูก่อนเริ่มการรบได้ ถ้าไม่นับภาคแฟนตาซีอย่าง Warhammer ผมว่าภาคนี้สามารถคัสต้อมแม่ทัพได้เยอะสุดแล้ว
- ด้านฉากต่อสู้นี่ก็ยกมาจาก Troy เกือบทั้งดุ้น แต่มีการปรับปรุงหลายอย่างให้ดีขึ้น อย่างเช่น ระบบความทนทานของเกราะ เมื่อยูนิตสู้ไปนานๆค่าเกราะจะลดต่ำลงเรื่อยๆ พวกยูนิตเกราะหนักก็จะไม่ได้คงกระพันเหมือนภาคอื่น ระบบสภาพอากาศแบบ Dynamic สุ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆแม้อยู่ระหว่างการต่อสู้ ระบบเผาป่าที่ตอนนี้สามารถเผาพวกกอหญ้าได้แล้ว แล้วก็การสู้รบไม่ได้จบเร็วแบบตอนภาค Troy เพราะพวกสกิลเว่อๆทั้งหลายได้ถูกตัดออกไป
- ฉากตีเมืองมีความสมจริงขึ้นถ้าเทียบกับภาคไล่เลี่ยกัน ไอ้พวกทหารราบเสกบันไดออกจากตูดมาปีนกำแพงเมืองได้เลยนี่ไม่มีแล้ว (แต่ทหารยังวิ่งไปทุบประตูเมืองให้พังได้อยู่นะ WTF) หวนคืนสู่ Old School คือต้องล้อมเมืองและสร้างอุปกรณ์ตีเมืองก่อน การขึ้นลงกำแพงเมืองก็ต้องขึ้นลงผ่านจุดที่เป็นบันไดแล้ว ธงในเมืองก็แจกบัพเสริมที่อิมแพ็คกับฝ่ายป้องกันมากขึ้น ช่วยให้การตั้งรับในเมืองง่ายขึ้นพอสมควรเลย
- เงื่อนไขจบเกมภาคนี้ใช้ระบบแต้ม Victory Point เมื่อเก็บแต้มครบก็จะจบเกมได้ แล้วการได้แต้มมามีหลายวิธีมาก ทั้งได้จากเควสทั่วไปที่ภาคนี้เรียกว่า Ambition การยึดเมืองต่างๆ การเก็บทรัพยากรให้ครบตามเป้า การเอาตัวรอดจากภัยพิบัติและอื่นๆ ทำให้ภาคนี้จะเล่นยังไงก็สามารถจบเกมได้ เพราะไม่ได้มีเงื่อนไขตายตัวแบบภาคอื่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบความอิสระสุดๆ
- ราคาเกมตอนแรกโคตรแพง ดูไม่คุ้มกับคอนเทนท์ที่ได้เลย แต่ว่าตอนนี้ลดราคาต้นลงมา 1 ใน 3 แล้ว ถ้ามีอีเวนท์ลดราคาอีกซัก 20-30% ก็น่าจะหยิบมาเล่นได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจละ
.
ข้อเสีย
.
- สิ่งที่น่าด่าที่สุดของภาคนี้ก็คือการหยิบยุคสำริดมาทำ แต่ดันตัดตัวสำคัญของยุคนี้อย่างเมโสโปเตเมียและกรีกออกไปเฉย ในเกมจะโฟกัสแค่พื้นที่แถบอียิปต์ อานาโตเลียและคานาอันเท่านั้น คือถ้าจะทำแค่นี้เอาชื่อ Saga กลับมาแปะห้อยท้ายเหมือนเดิมก็ได้นะ อุตส่าห์ทำแผนที่เกมออกมาซะใหญ่โตแต่ Zone of Interest แม่งมีอยู่กระจึ๋งเดียว ที่เหลือมีแต่เมืองโนเนมกับเมืองบ้านนอกไม่เคยได้ยินชื่อ
- อีกปัญหาใหญ่ของภาคนี้คือความหลากหลายของยูนิต เนื่องจากยุคสำริดยังไม่มีทหารม้าและยุทโธปกรณ์ต่างๆก็ล้าหลังอยู่ รบทางเรือก็ไม่มี ยูนิตแฟนตาซีแบบภาค Troy ก็ไม่มี ยูนิตทั้งหมดของภาคนี้จึงเป็นทหารราบกับรถศึกเท่านั้น ต่อให้ CA Sofia จะพยายามเพิ่มความหลากหลายและใส่ยูนิตท้องถิ่นหรือ Native Unit เพิ่มเข้ามาแล้วก็เถอะ แต่กับสาย Casual ที่วันๆจำแต่ชื่อกับไอค่อนของยูนิต คงจะปวดหัวกับภาคนี้แน่ๆ
- ถึงจะบอกว่าภาคนี้เป็นภาคประวัติศาสตร์ 100% แต่ตัวละครหลักก็เป็นอมตะเหมือนเดิม แล้วก็ไม่มีระบบผังตระกูลมาให้ แม่ทัพตัวรองก็ไม่มีอะไรพิเศษ หน้าตากับชุดก็มีอยู่แค่ไม่กี่แบบ สกิลเริ่มต้นก็แทบไม่ต่างกันเลย คือคัสต้อมแม่ทัพได้เยอะแต่ถ้าแม่ทัพรองไร้จุดเด่นแบบนี้ก็ไม่ค่อยโอเคนะ มันไม่อินอะ แม่ทัพ A ตายเหรอ ก็กดสร้างแม่ทัพ B ที่เหมือนกันทุกอย่างมาลุยต่อสิ
- UI ภาคนี้ทำออกมาสวยใช้ได้เลย แต่ในแง่ของการใช้งานคือสอบตก สวยแต่รูปจูบไม่หอม Layout การจัดวางหลายอย่างมันชวนงงจริงๆ ปุ่มบางจุดก็ดูเล็กมองเห็นยากเหลือเกิน อยากถามว่าใครเป็นคนดีไซน์แบบนี้วะ
- แผนที่ฉากต่อสู้ Land Battle จะเล็กไปไหน คือเปิดมาเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ปะทะกันแล้ว มันเอาสเกลแผนที่ฉากต่อสู้จากภาค Warhammer มาใช้แทนที่จะเอาจากภาคประวัติศาสตร์ด้วยกัน หรือทีมสร้างจะคิดว่าเกมมีแต่ทหารราบให้แผนที่ใหญ่ไปคงเดินกันขาลาก แต่เพราะมันเล็กแบบนี้เลยทำให้การซุ่มโจมตีทำได้ยาก น่าเสียดายอุตส่าห์มีชัยภูมิน่าสนใจตั้งเยอะ
- ทำไมพวก Quality of Life ดีๆของภาคก่อนหน้านี้อย่างภาค Warhammer 3 ถึงไม่ยกมาใส่ในภาคนี้ด้วย อย่างการให้ AI คุมทัพเสริมแทนเรา การหน่วงกำลังเสริมไม่ให้เข้าฉากต่อสู้ทันที โหมด Multiplayer Campaign ที่เล่นได้มากกว่า 2 คน (แต่ไม่ต้องถึง 8 คนก็ได้) มันอาจจะดูเล็กน้อยแต่ถ้าช่วยให้เกมดีขึ้นก็ควรมีมาให้นะ
.
สรุปคะแนน 7/10
เอาตรงๆนะ CA ความชิบหายของภาค Pharaoh นั้นเกิดจากการขาด 2 สิ่ง คือ Hype กับ Ambition ข้อแรกคือทำไมเอ็งไม่ทำภาคหรือยุคที่แฟนๆเขาเรียกร้อง ไม่ใช่ว่ายุคสำริดมันไม่ดีนะแต่มันมาผิดที่ผิดเวลาอย่างแรง เกมทุกเกมมันอยู่ได้ด้วยแรงไฮป์ ต่อให้เกมเปิดตัวมาพังพินาศแค่ไหนแต่ถ้ายังมีคนไฮป์อยู่พอแก้ไขเสร็จคนก็กลับมาเล่นแบบ Cyberpunk 2077 แต่เกมนี้คือไม่มีกระแสไฮป์เลยซักนิดเดียว มีแต่คำบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น อัพเดตอีกเป็นร้อยแพทซ์ก็ไม่ฟื้นหรอก ข้อสองคือทำไมเอ็งต้องจำกัดสเกลของเกมขนาดนั้น ความดับดิ้นของภาคย่อย Saga ทั้งสองภาคยังไม่ทำให้ตาสว่างใช่มั้ย ว่าผู้เล่นเขาต้องการเกมที่มีความทะเยอทะยาน มีความหลากหลายสูง มีระบบใหม่ๆที่เป็นเอกลักษณ์แต่ยังคงเสน่ห์เกม Total War ไว้อยู่ หรือถ้าบอกว่าเอนจิ้นมันเก่าพัฒนาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วก็ทำเอนจิ้นใหม่สิวะ จะขายเหล้าเก่าในขวดใหม่ไปถึงเมื่อไหร่ถึงพอใจ อย่างภาค Pharaoh นี่ก็ถือว่าเล่นได้และสนุกพอสมควรเลยด้วย มันแค่ขาดความไฮป์และความทะเยอทะยานตามที่ว่าไป แล้วตอนแรกตั้งราคาขายเท่าภาคหลักอีก ไม่แปลกที่จะโดนถล่มยับขนาดนั้น ตอนนี้ลดราคาลงมาแล้วก็ถือว่าพอซื้อได้อยู่ แล้วทาง CA ก็บอกว่าจะมีการขยายแผนที่แคมเปญในอนาคตด้วย แต่ไม่รู้จะโดนตระบัดสัตย์อีกรึเปล่านะ เพราะฐานผู้เล่นแค่นี้ทำ DLC มาขายยังไงก็ขายไม่ออกแน่ ได้อารมย์เหมือนเหล่ามัมมี่ที่โดนนักบวชหลอกว่าจะฟื้นคืนชีพในภายภาคหน้าเลย
.
เหมาะสำหรับ
o แฟนเกม Total War ที่ยังไม่เคยเล่นภาค Troy มาก่อน
o แฟนประวัติศาสตร์ยุคสำริด
o แฟนเกมสงครามแนว RTS หรือ Turn Base
Posted 18 March. Last edited 19 March.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
No one has rated this review as helpful yet
21.3 hrs on record (21.1 hrs at review time)
รีวิวเกม Eiyuden Chronicle: Rising เกมภาคแยกของจักรวาล Eiyuden ที่สืบทอดจิตวิญญานของเกม JRPG ระดับตำนานอย่าง Suikoden ก่อนที่ภาคหลัก Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes จะตามมาในเดือนเมษายนปี 2024
.
ข้อดี
.
- ถือเป็นเกม Platformer ที่ภาพสวยมากๆเกมนึง ฉากหลังของเมืองที่มีชาวเมืองเดินไปเดินมาก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก
- ระบบอัพเกรดเมืองระหว่างการเล่นทำออกมาได้ดี มันช่วยเพิ่ทออพชั่นให้คุณเล่นเกมได้ง่ายขึ้นและทำให้เมืองดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม
- ระบบต่อสู้ของตัวละครหลัก 3 คนทำออกมาได้ดีใช้ได้ แต่ละคนมีสไตล์การต่อสู้ของตัวเอง เอาไว้สลับตัวรับมือสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แล้วก็ยังมีการอัพเกรดท่าหรือสกิลใหม่ๆได้
- ราคาของเกมถือว่าถูกมาก ถ้าซื้อช่วงลด 50% ก็จะเหลือแค่ 100 กว่าบาทเอง เกมใช้เวลาเล่นจบประมาณ 10 กว่าชั่วโมง ก็ถือว่าไม่เลวเท่าไหร่
- เห็นว่าเซฟเกมหลังเล่นจบสามารถโหลดไปใช้ในภาคหลักเพื่อรับของรางวัลพิเศษได้ด้วย
.
ข้อเสีย
.
- เกมมันให้ไกรดิ้งเควสรองหนักเกิน รู้ว่าอยากให้เข้าใจ World Building ของโลกนี้ แต่เนื้อหาเควสรองมันโคตรน่าเบื่อเลย
- ร้านกว่าครึ่งในเมืองไม่ต้องมีก็ได้มั้ง พวกโรงเตี๊ยมหรือโรงอาบน้ำที่แจกบัพชั่วคราวเงี้ย เอาเงินไปอัพเกรดอาวุธถาวรดีกว่า เงินยิ่งหายากๆอยู่
- ถ้าเทียบกับเกม Platformer ระดับ AAA อย่างพวก Hollow Knight รู้สึกเกมนี้มันขาดเอกลักษณ์ของตัวเอง องค์ประกอบหลายๆอย่างมันดูดีแต่ไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่
- เกมไม่มีเสียงพากย์เลย แม้แต่เสียงซาวด์เอฟเฟคระหว่างบทสนทนาก็ไม่มี
.
สรุปคะแนน 6/10
Eiyuden Chronicle: Rising ถูกจ้างพัฒนาโดยสตูดิโอนอก ถือว่าเป็นเกมปูเนื้อเรื่องฆ่าเวลาระหว่างรอภาคหลักทำเสร็จ แต่เอาจริงๆมันก็สร้างความเข้าใจผิดให้หลายคนว่าภาคหลักจะมาสไตล์เดียวกัน จนหลายคนเลิกสนใจภาคหลักไปเลยก็มี ตัวเกมจริงๆมันไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ใช้เป็นเกมเล่นฆ่าเวลาได้อยู่ ทำมาเพื่อปู World Building กับที่มาตัวละครหลักหลายตัวก่อนจะไปโผล่อีกครั้งในภาคหลัก (แต่ในภาคหลักน่าจะกลายเป็นตัวละครรองแทน) เอาจริงๆถ้าคนไม่สนใจเรื่องพวกนี้ก็ข้ามไปเล่นภาคหลักเลยก็ได้ มันคงมีเขียนสรุปมาให้แหละ แค่คนที่เล่นภาค Rising มาก่อนจะอินกว่าปกติ เอาเป็นว่ามันคืออาหารออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อย ก่อนที่อาหารจานหลักอย่าง Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes จะมาเสิร์ฟภายหลัง แถมดูทรงแล้ว Hundred Heroes มีลุ้นได้ GOTY ซักรางวัลอยู่เหมือนกัน ถ้าเกมมันทำได้ระดับเดียวกับ Suikoden 2 อะนะ
.
เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ชอบเกมแนว Platformer ฆ่าเวลาราคาถูก
- ผู้ที่สนใจเกม Eiyuden Chronicle: Hundred Heroes และอยากปูพื้นเนื้อเรื่องก่อน
- ชายฉกรรจ์วัย 30+ ที่เคยประทับใจเกมตระกูล Suikoden และอยากรีเทิร์น
Posted 23 February.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
3 people found this review helpful
49.0 hrs on record (46.9 hrs at review time)
รีวิวเกม Princess & Conquest เป็นเกม H ที่สร้างจากโปรแกรม RPG Maker เหมือนเกม H ดาดๆทั่วไปในตลาด แต่เกมนี้กลับอัดแน่นไปด้วยคอนเทนท์จนฉากอย่างว่าเป็นเรื่องรองไปเลย สามารถเล่นได้ยาวๆเกิน 100 ชั่วโมง
.
ข้อดี
.
- ด้วยความที่เป็นเกม H แฟนตาซี ทำให้เกมนี้เน้นขายสาวมอนเป็นหลัก มีสาวมอนที่เป็นเจ้าหญิงให้เลือก H เยอะมากทั้งตัวหลักและตัวรอง ไม่ว่าจะเป็น ก๊อบลิน โอนิ มนุษย์แมว วิญญาน นางเงือก โกเล็ม มังกร ซัคคิวบัส นางไม้ แต่ละนางมีให้เปลี่ยนร่างหรือเปลี่ยนคอสตูมอีกเพียบ งานอาร์ตของเกมก็สวยใช้ได้เลย
- เกมนี้ต่อให้ตัดฉาก H ออกไปก็ถือว่ามีคอนเทนท์เยอะมาก ระบบในเกมเพียบ อย่างเช่น สงครามระหว่างเผ่า ประมูลทาส ซ่องขายตัว ปราบโจร ลักหลับ ล่าบอส ปล่อยเงินกู้ ปลุกกบฏ คราฟท์ไอเท็ม โคลอสเซี่ยมและอื่นๆ ความลับในเกมก็มีเยอะมาก จนบางครั้งเราอาจต้องไปนั่งหาอ่านบทสรุปก่อนไม่งั้นอาจจะพลาดสิ่งสำคัญไปได้
- อีกจุดเด่นของเกมนี้คือระบบ Progeny หรือที่ผมเรียกว่าระบบเลี้ยงโปเกม่อน มันคือตัวละครที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก (ตัวเอกกับเจ้าหญิงตัวหลักที่มีอาณาจักรปกครอง) มีทั้งเจ้าหญิงตัวรอง NPC พิเศษ แล้วก็ลูกที่เกิดจากเจ้าหญิง พวกนี้จะเป็นขุมกำลังต่อสู้หลักของเรา ถ้าเป็นลูกของเราก็จะสุ่มสเตตัสกับ Trait ตอนเกิดมา ตัวไหนเก่งๆเราก็เก็บไว้ปั้น ตัวไหนกากๆเราก็เอาไปขายซ่องหรือขายเป็นทาสก็ได้
- เกมสนับสนุนให้เล่นใหม่ได้หลายรอบ เพราะมีโหมด New Game+ และ Trait เริ่มต้นของตัวละครแต่ละอันทำให้สไตล์การเล่นเปลี่ยนไปมาก เช่น ถ้าเราเลือก Pacifista Knight (อัศวินใฝ่สันติ) จะทำให้โอกาสเกิดสงครามน้อยลง แต่ตัวเราจะไม่ยอมสู้ในฉากต่อสู้เลย หรือ Peasant Knight (อัศวินชาวบ้าน) จะทำให้จีบเจ้าหญิงยากขึ้น แต่ถ้าจีบติดเจ้าหญิงก็จะรักเรามากขึ้น หรือ Chef Knight (อัศวินพ่อครัว) จะทำให้ได้รับบัพจากอาหารเพิ่มขึ้น แล้วก็เพิ่มปริมานแคลอรี่ในอาหาร ทำให้เจ้าหญิงกลายเป็นร่างอวบ (Thicc) ง่ายขึ้น
- เกมนี้ใช้คอมอะไรก็เล่นได้ ต่อให้เป็น Windows XP เมื่อยี่สิบปีก่อน ไม่เชื่อไปดูแถบสเปคแนะนำของเกมสิ
- เกมนี้ถือว่าราคาถูกมากๆ ถ้าเทียบกับคอนเทนท์ที่ได้ ผู้พัฒนาก็ยังคงอัพเดตเกมให้ฟรีอยู่เรื่อยๆ อย่าง DLC ตัวละครพิเศษล่าสุดก็แจกฟรี
.
ข้อเสีย
.
- ฉาก H ของเกมนี้เกือบทั้งหมดเป็น หน้าต่างอนิเมชั่นเล็กๆเล่นวนซ้ำฉากเดิมไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าบิวด์อารมย์ไม่ขึ้นเลย
- เพลงประกอบของเกมนี้กากมาก แถมตัวละครในเกมนี้ไม่มีเสียงพากย์อีก เวลาพูดจะเป็นเสียงซาวด์เอฟเฟคแปลกๆแทน
- เกมบังคับให้เลือก Route ของเจ้าหญิงเพียงคนเดียวเพื่อจบเกม ไม่มี Harem End ให้เลือก แถมเจ้าหญิงเกินครึ่งก็ยังไม่ได้อัพเดต Route เข้ามาเลย แม้เกมจะออกจาก Early Access แล้วก็ตาม
.
สรุปคะแนน 9/10
จริงๆซื้อเกมนี้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่ค่อยได้เล่นจริงจังเท่าไหร่ พอกลับมาเล่นใหม่แต่ละครั้งก็ต้องเซอไพรซ์กับคอนเทนท์ใหม่ที่มันอัพเดตเข้ามาตลอด Princess & Conquest นี่น่าจะเป็นเกม H ไม่กี่เกมที่มีคอนเทนท์อัดแน่นมากขนาดนี้ แลกมาด้วยฉาก H ที่ไม่ได้อารมย์เท่าไหร่ แต่ถ้าเรามองว่านี่คือเกม RPG ที่มีฉาก H เป็นของแถม เกมนี้ก็ถือว่าเป็นเกมเทพเลยนะ ถ้าซื้อช่วง Steam Sale ก็เหลือไม่ถึง 200 บาทเอง ส่วนใครที่ต้องการเล่นเกมเพื่อสาวหนอนเชิญไปเกมอื่นครับ เกมนี้ไม่น่าจะตอบโจทย์พวกท่านเท่าไหร่
.
เหมาะสำหรับ
- คนที่ชื่นชอบสาวมอนสเตอร์
- คนที่ชื่นชอบเกม H คอนเทนท์แน่นๆ เล่นได้ยาวๆ
- คนที่ชื่นชอบเกม RPG แบบมีฉากกระชุ่มกระชวยนิดหน่อย
- เจ้าของช่อง Vocal War
Posted 28 November, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
12 people found this review helpful
90.7 hrs on record (14.0 hrs at review time)
รีวิวเกม Digimon World: Next Order ผู้สืบทอดสายตรงของเกม Digimon World ภาคแรก เกมระดับตำนานสมัย PS1 หลังจากปล่อยเป็น Exclusive บนเพลย์สเตชั่นมานานถึง 6 ปี ในที่สุดชาว PC และ Switch ก็มีบุญได้เล่นกันซักที
.
ข้อดี
.
- เกมยังคงสเน่ห์ของ Digimon World ภาคแรกไว้เกือบครบถ้วน อย่างแรกเลยก็คือการเลี้ยงดิจิม่อนในเกมนี้จะแตกต่างจากเกมอื่น ตรงที่ดิจิม่อนจะมีอายุขัย ไม่ว่าเราจะเลี้ยงดูมันจนเติบใหญ่แค่ไหน พอครบอายุขัยดิจิม่อนเราก็จะแก่ตายอยู่ดี แล้วเราก็ต้องมาเลี้ยงใหม่ฝึกใหม่อีกเรื่อยๆ หลายคนอาจจะไม่ชอบแต่มันคือหนึ่งในจุดขายของเกมเลย เพราะเราจะได้ใช้ดิจิม่อนตัวใหม่เรื่อยๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่ซ้ำหน้าเลย แล้วภาคนี้สามารถเลี้ยงดิจิม่อนได้ 2 ตัวพร้อมกันด้วยนะ
- อีกหนึ่งสเน่ห์เลยก็คือการตามหาดิจิม่อนตามที่ต่างๆให้กลับมาบูรณะเมืองเริ่มต้น เมืองก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆพร้อมปลดล็อคฟีเจอร์สำคัญต่างๆ เช่น ร้านขายไอเท็ม ร้านอาหาร ฟาสต์ทราเวล โรงยิม ซึ่งจะช่วยให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้น แล้วก็การที่ได้นั่งดูเมืองค่อยๆเติบโตด้วยน้ำพักน้ำแรงของผู้เล่นนี่ทำให้รู้สึกดีมากๆ
- ถ้าเทียบกับภาคแรก ภาคนี้ถือว่าเล่นง่ายขึ้นมากและมี Quality of Life เพิ่มมาเยอะ อย่างเงื่อนไขการพัฒนาร่างในภาคแรกจะไม่มีบอกในเกมเลย ผู้เล่นต้องเดาเอาล้วนๆไม่ก็ซื้อหนังสือบทสรุปมาอ่าน (วัยรุ่น Y2K น่าจะเข้าใจฟีลนี้) แต่ภาคนี้เกมจะทยอยบอกเงื่อนไขกลายร่างเรื่อยๆ หรือจะเป็นระบบต่อสู้ที่ทำอะไรได้มากขึ้น สามารถเลือกสั่งออกท่าโจมตี ท่าไม้ตายหรือรวมร่างได้ตามที่ผู้เล่นต้องการ
- จำนวนดิจิม่อนในภาคนี้มีมากถึง 232 ตัว เยอะกว่าภาคแรกมาก คงเพราะภาคนี้มีดิจิม่อนร่าง Mega เพิ่มเข้ามาด้วย
- คำศัพท์ภาษาอังกฤษในเกมนั้นอ่านง่ายมาก ไม่ต้องมีซัพไทยก็เล่นได้ไม่มีปัญหา (ยกเว้นคุณจะติด 0 วิชาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาล อันนี้ครูกายแก้วก็ช่วยคุณไม่ได้)
- เกมกินสเปคน้อยมาก คอมกากๆก็เล่นได้แน่นอน
- มีความเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องภาคแรกด้วย แต่ขอไม่สปอยนะ
.
ข้อเสีย
.
- เกมมันไกรดิ้งหนักมาก เพราะดิจิม่อนเราเวียนว่ายตายเกิดเรื่อยๆ พอเกิดใหม่ก็ต้องมาเสียเวลานั่งฝึกอีกหลายชั่วโมง ไม่งั้นพาไปลุยที่ยากๆไม่ไหว ใครที่กำลังจะไปสู้บอสโหดๆแล้วดิจิม่อนดันแก่ตายพอดีนี่คงเซ็งน่าดู รวมถึงคนที่อยากใช้ดิจิม่อนตัวที่ชอบยาวๆด้วย ก็ต้องรอช่วงท้ายเกมนู่นเลยกว่าจะมีวิธีทำให้ดิจิม่อนไม่แก่ตาย
- เกม Port มามีปัญหาพอสมควร อย่างเช่น ฟีเจอร์ Depth of Field ที่ทำให้เกมภาพเบลอทุกครั้งเวลาเดินในที่โล่งกว้าง (ยังดีที่สั่งปิดได้) หรือเกมรองรับจอยสติ๊กมากกว่าเมาส์คีย์บอร์ดชัดเจน ไม่งั้นจะกด Action Wheel ลำบากมาก
- แผนที่ภาคนี้ส่วนใหญ่เป็น Landscape โง่ๆที่เอาสิ่งกีดขวางมาวาง ดูขาดความเอาใจใส่ด้านดีไซน์แตกต่างจากสมัยภาคแรก ที่แผนที่แต่ละโซนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ทำให้อารมย์ร่วมในการออกผจญภัยสำรวจแผนที่ในภาคนี้ลดน้อยลง
- ดิจิม่อนในภาคนี้มีเยอะก็จริง แต่เป็นดิจิม่อนของเหล่าตัวเอกในอนิเมะไปกว่าครึ่ง ส่วนพวกดิจิม่อนคลาสสิคโดนตัดออกไปเพียบ อย่างพวก Drimogemon, Piximon, Monochromon, Frigimon, Centarumon, Shellmon หรือ Tankmon เข้าใจว่าผู้พัฒนาต้องการเอาดิจิม่อนตัวเอกมาล่อซื้อ แต่การขาดดิจิม่อนคลาสสิคพวกนี้ก็ทำให้สเน่ห์เกมลดลงไปเยอะอยู่
.
สรุปคะแนน 7/10
ต้องยอมรับว่าผมเป็นแฟนเกม Digimon World ภาคแรกมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว เล่นใน PS1 จนแผ่นพังอะ Digimon World: Next Order นี่ก็ถูกสร้างมาเพื่อเป็นผู้สืบทอดของภาคแรกจริงๆ เน้นขายความ Nostalgia ให้แฟนรุ่นเก่าและลดระดับความยากลงเพื่อดึงดูดแฟนกลุ่มใหม่ ถึงแม้จะยังขาดความคลาสสิคและสเน่ห์การผจญภัยแบบภาคแรกไป แต่เกมก็ถือว่าทำออกมาได้ดีระดับน่าพึงพอใจ สามารถซื้อมาเล่นได้ทั้งราคาเต็มหรือรอลดราคาก็ได้ คนที่อยากสัมผัสบรรยากาศโลกดิจิม่อนอย่าได้พลาดเชียว เพราะไม่รู้ว่า World ภาคต่อไปต้องรอ 20 ปีอีกหรือเปล่า ตอนนั้นผมเองก็อาจไม่มีแรงเล่นแล้วก็ได้ 555
.
เหมาะสำหรับ
- คนที่ชื่นชอบเฟรนไชส์ Digimon
- คนที่เคยเล่นเกม Digimon World ภาคแรกสมัย PS1
- คนที่ชอบเกมแนวผจญภัยในโลกแฟนตาซี
Posted 4 September, 2023. Last edited 18 September, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
13 people found this review helpful
154.1 hrs on record (46.2 hrs at review time)
Early Access Review
รีวิวเกม Love & Zex Second Base เกม H Dating Sim ที่ช่วงนี้ติดงอมแงม เสียดายไลฟ์ลงยูทูปไม่ได้ ดูแล้วมีแววเล่นทะลุ 100 ชั่วโมงแน่ๆ
.
ข้อดี
.
- เป็นเกม Dating Sim ที่คอนเทนท์และเนื้อเรื่องแน่นมาก ถ้าเล่นแบบ Roleplay อ่านเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆจีบสาวครบทุกคน สามารถเล่นเกิน 100 ชั่วโมงได้สบาย เรียกได้ว่าคุ้มราคาเกมแน่ๆ
- เกมมีสาวให้เลือกจีบ 20 กว่าคน แถมแต่ละคนจะมีเมคานิกไม่เหมือนกันด้วย บางคนเป็นทอมบอยเราก็ต้องเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอก่อน บางคนเป็นสาวออฟฟิศก็ต้องช่วยให้นางเจริญในหน้าที่การงานด้วย อีเวนท์ถึงจะไปต่อได้ ช่วงหลังนี่สลับรางกันสนุกเลย
- เกมสามารถสร้างฮาเร็มได้หลายแบบและสามารถเลือกจบแบบฮาเร็มได้ แต่บางฮาเร็มก็จะสร้างยากพอสมควร ถ้าเดินหมากผิดก็อาจจบไม่สวยนะ
- เกมนี้สนองนี๊ดได้เกือบทุกสาย ไม่ว่าจะเป็น Masochist Sadist Shibari Slave Siscon NTR Milf Slut Yandere Yuri Muscular มีให้ครบเลย
- เกมมีบทพากย์ของสาวๆเยอะพอสมควร แถมเสียงพากย์ภาษาอังกฤษก็ดีใช้ได้เลย เพลงประกอบก็ดีงาม ฟังแล้วเพลินดี
- เกมมี Wiki หรือไกด์ที่ดีเป็นอันดับต้นๆในกลุ่มเกม Dating Sim ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วนและช่วยผู้เล่นได้เยอะมาก
- เกมยังเป็น Early Access ทำให้มีแผนอัพเดตอีกเรื่อยๆ ทั้งระบบเกมและตัวละครใหม่ๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ยกเว้นอยากเล่นโหมดตัวละครหญิงที่ต้องเสียเงินซื้อ DLC
- เกมมีสาวยันที่จ้องจะข่มขืนคุณ ฆ่าปาดคอคุณและตัดคอสาวๆรอบตัวคุณ (10/10)
.
ข้อเสีย
.
- เหมือนกับเกมสไตล์ Dating Sim อื่นๆ ที่ต้องค่อยๆสานความสัมพันธ์กับสาวไปทีละขั้น บางทีใช้เวลา Grinding เป็นสิบชั่วโมงกว่าจะได้โซเดมาคอม ไม่เหมาะกับคนที่มีเวลาจำกัด
- เนื่องจากสร้างโดยค่าย Andrealphus ทำให้เกมค่อนข้างซับซ้อนเล่นยาก ถ้าไม่เปิดไกด์เล่นมีโอกาสเจอตอหรือ Bad End ได้ตลอด เพราะอีเวนท์บางอย่างในเกมก็ไม่บอกเงื่อนไขให้ผู้เล่นรู้ตรงๆ บางอีเวนท์ก็มีเวลาจำกัดด้วย พลาดแล้วพลาดเลย
- งาน Artwork แต่ละฉากไม่ค่อยเหมือนกัน เข้าใจว่าใช้คนวาดหลายคน ทำให้สาวๆหลายนางดูเหมือนหลุดมาจากคนละเกม พวกฉาก CG นี่บางคนก็เบ้าหน้าเปลี่ยนไปเลย อาจดูขัดตาสำหรับบางคน
- ถ้าอยากเล่นโหมดตัวละครหญิงต้องซื้อ DLC เพิ่มอีก 100 กว่าบาท นอกจากต้องเสียเงินแล้ว โหมดนี้ยังทำออกมาไม่เสร็จดี มีหนุ่มให้จีบแค่ไม่กี่คนและอีเวนท์น้อยมาก ขนาดผู้พัฒนายังไม่แนะนำให้เล่นในตอนนี้ ใครจะกดก็ระวังละกัน
.
สรุปคะแนน 9/10
"เกม H ระดับ AAA ไม่มาวางขายบน Steam หรอก" ปรมาจารย์วูมี่ผู้เชี่ยวชาญเกม H ได้กล่าวไว้ ซึ่งผมก็คิดคล้ายๆกัน แต่ผมก็พยายามเฟ้นหาเผื่อจะมีหลุดมาขายบน Steam บ้างซักเกม จนมาเจอกับ Love & Zex Second Base นี่แหละใช่เลย เพราะสเปคเกม H ที่ผมชอบคือเกมที่มีคอนเทนท์แน่นๆและเล่นยากใกล้เคียงกับเกม Strategy ซึ่งไอ้เกมนี้ให้ผมได้ครบ เป็นครั้งแรกที่เล่นเกมแนวนี้แล้วใช้ประโยค One More Turn จนสุดท้ายนอนไม่พอ ในราคาแค่ 400 (ตอนลดเหลือ 300 นิดๆ) ถ้าเล่นยิงยาวได้เกิน 100 ชั่วโมงนี่ถือว่าคุ้มมากเลย
.
เหมาะสำหรับ
- คนที่ชอบเกมแนว Dating Sim เล่นยากๆ
- คนที่ชอบเกม H มีสาวๆเยอะ มีฮาเร็ม
- คนที่ชอบเล่นเกมมือเดียว
Posted 4 May, 2023. Last edited 25 January.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
5 people found this review helpful
35.7 hrs on record (34.2 hrs at review time)
รีวิวเกม Humankind หลังจากเกมออกมาได้เกือบ 2 ปีครับ
.
ข้อดี
.
- กราฟฟิคกับโมเดลต่างๆในเกมสวยมาก ถ้าปรับกราฟฟิคสูงสุดเมืองช่วงยุคท้ายๆนี่อย่างงาม มีการเก็บรายละเอียดเมืองและสิ่งก่อสร้างได้ค่อนข้างดีเลย แต่ละเมืองจะเชื่อมต่อถึงกันหมดด้วยถนน แล้วก็มีประชากรออกมาเดินกันขวักไขว่ให้เห็นเวลาซูมด้วย ยิ่งถ้าเรามีสิ่งก่อสร้าง Wonder อย่างพวกพีระมิดหรือหอไอเฟลอยู่ในเมืองด้วยจะยิ่งดูโดดเด่นกว่าเดิม
- เกมมีวัฒนธรรมหรือ Culture ให้เลือกเล่นเยอะมาก แบ่งออกเป็น 6 ยุค โดยเริ่มจากยุคหินแล้ววิวัฒนาการไปเรื่อยๆ แต่ละ Culture จะมีบัพพิเศษ สิ่งก่อสร้างพิเศษและยูนิตพิเศษให้มาอย่างละ 1 อัน สิ่งก่อสร้างพิเศษและยูนิตพิเศษจะสร้างไม่ได้อีกเมื่อขึ้นยุคถัดไป แต่บัพพิเศษนั้นจะติดตัวเราไปจนยุคสุดท้ายเลย ทำให้ถ้าเราเลือกคอมโบ Culture แต่ละยุคให้ดี ช่วงท้ายเกมเราจะได้บัพ OP มากๆ บาง Culture ก็มีปรับเกมเพลย์ให้ต่างจากเดิมมาก อย่าง Hun หรือ Mongol ที่จะสร้างเมืองไม่ได้ในยุคดังกล่าว หรือ Singapore ที่บีบให้ผู้เล่นรวมดินแดนทั้งหมดไว้ที่เมืองเดียว
- ยูนิตในเกมหลากหลายกว่าที่คิด แต่ละตัวก็จะมีกิมมิคแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นยูนิตทั่วไปที่ปลดล็อคจากเทคโนโลยีหรือว่ายูนิตพิเศษของแต่ละ Culture ถ้าเราข้ามไปยุคใหม่ก็สามารถจ่ายเงินเพื่ออัพเกรดยูนิตได้ด้วย แล้วก็จะมียูนิตเอเจนท์อย่าง Spy หรือ Settler ที่ใช้งานอย่างอื่นนอกจากสู้รบได้ด้วย แล้วระบบการรบทำออกมาสนุกใช้ได้เลยสำหรับเกมแนวนี้
- เนื่องจากเป็นเกมค่าย Amplitude จึงไม่พลาดต้องมีระบบเกมแบบเดียวกับพวกเกมตระกูล Endless ทั้งหลาย อย่างระบบประชากรที่เห็น UI ก็รู้เลยว่าทีมสร้างเดียวกัน แต่ระบบมันก็เข้ากับเกมแบบนี้ดี ช่วยให้การบริหารจัดการเมืองมีความลึกกว่าเดิม
- ระบบการทูตค่อนข้างโอเคเลยหลังจากออก DLC ล่าสุด Together We Rule มา ตอนนี้ทุกฝ่ายในเกมจะมีสภา Congress ให้โหวตประเด็นต่างๆ รวมถึงมีตัวเลือกทางการทูตที่มากขึ้น อย่างการใช้แต้ม Leverage เพื่อบีบให้ฝ่ายอื่นเซ็นสัญญาการทูตโดยไม่สมัครใจได้
- ผมค่อนข้างชอบระบบอีเวนท์ของเกมนี้มาก ถ้าเราได้ตามอ่านเนื้อหาจะยิ่งรู้สึกอินกับเกมมากขึ้น บางอีเวนท์ก็จะเกิดจากสิ่งที่เราทำลงไปด้วย เช่น อีเวนท์วาฬใกล้สูญพันธ์ เพราะเราสร้างสิ่งก่อสร้างท่าเรือล่าวาฬมากเกินไป หรืออีเวนท์ฝุ่นควัน PM 2.5 ปกคลุมเมืองเพราะเราสร้างโรงงานมากเกินไป (แล้วไอ้เมืองที่ผมเจออีเวนท์นี้คือ Bangkok ซะด้วย 555)
- เกมมี Culture สยามให้เล่น เขมรก็มีนะเออ แถมเก่งด้วย (ข้อดีเหรอเนี่ย)
.
ข้อเสีย
.
- เกมมันเล่น Roleplay ได้ยาก เพราะเราไม่สามารถเล่น Culture เดียวไปจนจบเกมได้ เกมมันบังคับให้เราเลือกเปลี่ยนเป็น Culture ยุคถัดไปแข่งกับบอท ซึ่งบางทีเราอาจจะได้ Culture ที่เราไม่ต้องการเล่น เกมมันเลยดูเหมาะกับผู้เล่นสาย Hardcore ที่ชอบ Adapt ปรับตัวเองไปตามสถานการณ์ซะมากกว่า
- เกมมันข้ามยุคเร็วมาก ต่อให้เลือก Pace ของเกมให้ช้าที่สุดแต่ก็รู้สึกมันเร็วเกินไปอยู่ดี บางทีเราวิจัยปลดล็อคยูนิตพิเศษยังไม่เสร็จเลย หืม พร้อมให้ขึ้นยุคใหม่แล้วเหรอ? บางคนอยากจะเอ็นจอยกับยุคโบราณหรือยุคกลางให้นานๆซักหน่อย แต่ถ้าไม่รีบขึ้นยุคใหม่เดี๋ยวโดนฝ่ายอื่นแย่ง Culture ดีๆไปหมดอีก
- ระบบอิทธิพล (Influence) กับระบบศาสนา (Religion) ทำออกมาได้ตื้นมาก เริ่มจากระบบอิทธิพล แค่หาวิธีเพิ่ม Influence ต่อเทิร์นให้เยอะๆก็พอแล้ว เดี๋ยวมันก็แพร่ไปยังดินแดนข้างๆเอง แต่เมื่อแพร่ไปแล้วกลับแทบไม่มีผลอะไรเลย นอกจากไว้รีดแต้ม Leverage กับประกาศสงครามได้ถี่ขึ้นแค่นั้น ระบบศาสนาก็คล้ายๆกัน หาวิธีเพิ่มค่า Faith ให้สูงๆ เดี๋ยวมันก็แพร่ไปเรื่อยๆเอง แต่ศาสนายังดีที่เราสามารถเลือกบัพได้ตามใจชอบ แต่มันก็ยังดูไม่น่าสนใจเท่าไหร่อยู่ดี ช่วงท้ายๆเกมก็ลืมไปแล้วว่ามีระบบนี้อยู่
- ระบบการรบทางอากาศทำออกมาได้ลวกๆไปหน่อย เครื่องบินขับไล่นี่มีไว้แค่บินลาดตระเวนยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดศัตรูแค่นั้น เราบังคับอะไรมันไม่ได้เลย แถมเครื่องบินก็เอาไว้ใช้สนับสนุนในฉากต่อสู้ไม่ได้ด้วย ทำได้แค่ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดไปบอมบ์ลดเลือดศัตรูก่อนเข้าฉากต่อสู้แค่นั้น
- UI เกมนี้หลายจุดชวนงงมาก ทำออกมาให้ดูข้อมูลยากเหลือเกิน อย่างผมคลำหาเงื่อนไขจบเกมอยู่ตั้งนานก็ไม่รู้ว่าคืออะไร จนต้องไปอ่านใน Wiki เอาแทน แล้วก็ผลรวมบัพต่างๆที่เรามีก็ดูไม่ได้อีก ต้องไปเปิดย้อนดูเอาแต่ละยุคแทนว่าแจกบัพอะไรไว้บ้าง คือทำไมไม่ทำออกมาให้มัน User Friendly กว่านี้หน่อยเนี่ย
- มลพิษทางอากาศ (Pollution) ถือเป็นเงื่อนไขจบเกมอย่างนึง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อทุกฝ่ายปล่อยควันมากเกินไปจนโลกอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่รู้เลยว่ามลพิษมันเกิดจากจุดไหนบ้างและมีสูตรคำนวนยังไง เพราะไอ้หน้าต่าง UI มันแทบไม่บอกอะไรอีกแล้ว แถมดูแล้วไม่มีทางแก้ไขปัญหามลพิษได้ด้วย ต่อให้ปลูกป่าเยอะแค่ไหนก็ไม่เห็นมันจะยืดเวลาโลกแตกออกไปได้เลย คือใจคอจะให้สุดท้ายก็ตายกันหมดโลกอยู่ดีว่างั้น ที่เห็นทางแก้ชั่วคราวมีแค่เทคโนโลยีอันสุดท้ายที่ลดปริมาณปล่อยมลพิษลงครึ่งนึงแค่นั้น ระหว่างนั้นก็รีบจบเกมซะ
.
สรุปคะแนน 7/10
Humankind ถือเป็นเกมที่มีคอนเซ็ปต์เกมที่น่าสนใจมาก เรื่องราวของการเดินทางข้ามยุคของมนุษยชาติ ไล่ตั้งแต่ยุคหินยันยุคอวกาศ ทางด้านเกมเพลย์ถือว่าเล่นสนุกใช้ได้เลย เราสามารถประยุกต์อะไรกับเกมได้เยอะดี แต่คอนเซ็ปต์ของเกมก็ถือว่าเป็นข้อเสียเช่นกัน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะเดินหน้าไปพร้อมกับจังหวะของเกม มันไม่เหมาะสำหรับการ Roleplay และมีอะไรอีกหลายอย่างที่ขัดหูขัดตาอย่าง UI เป็นต้น แต่เห็นว่าทางผู้พัฒนาค่อนข้าง Active เลย ถ้าปัญหาดังกล่าวถูกแก้ไขจนหมด เกมนี้ก็อาจจะก้าวขึ้นมาเทียบชั้น Civilization ได้ในซักวันนึง
.
เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว Civilization
- ผู้ที่ชื่นชอบเกมแนวสร้างเมือง ขยายเมือง
- ผู้ที่ไม่ชอบคานธีแบกนิวเคลียร์
Posted 11 April, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
2 people found this review helpful
482.3 hrs on record (7.8 hrs at review time)
คลิปสอนเล่น : https://youtu.be/ZdVW_Vwe6J0
.
แก้ไขรีวิว : อัพเดต Season 1
.
รีวิวเกม Blood Bowl 3 ถือเป็นเกมภาคต่อของเฟรนไชส์ Blood Bowl เกมอเมริกันฟุตบาลแฟนตาซีในจักรวาล Warhammer Fantasy เกมถูกสร้างโดยบริษัท Cyanide ซึ่งภาคนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เกมเปิดขายไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์และเต็มไปด้วยเสียงก่นด่าสาปแช่งมากมาย เหมือนกับสองภาคก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่หลังจากเปิด Season 1 แล้วตัวเกมก็ดูดีขึ้นมาหน่อยแล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่าเกมมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
.
ข้อดี
.
- เกมภาคนี้ใช้กฏการเล่น Ruleset ของ Blood Bowl 2nd Edition ทำให้เกมเพลย์มีความสดใหม่กว่าสองภาคแรกและมีความสมดุลกว่าด้วย ทีมเก่าๆหลายทีมก็มีการปรับทั้งสกิล ราคาค่าตัว สเตตัสและโมเดลของผู้เล่นให้มีความสวยงามขึ้นตามยุคสมัย
- เกมภาคนี้เริ่มต้นมามีให้เลือกเล่นทั้งหมด 12 ทีมด้วยกัน เป็นทีมเก่า 8 ทีม (Human, Orc, Dwarf, Elven Union, Dark Elf, Skaven, Chaos Chosen, Nurgle) และทีมใหม่ 4 ทีม (Imperial Nobility, Black Orc, Old World Alliance, Chaos Renegade) ค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับภาคก่อน และมีภาพหลุดทีมใหม่ที่จะตามมาอีกอย่างน้อย 7 ทีม (Goblin, Halfling, Lizardmen, Wood Elf, Undead, Necromantic, Underworld)
- ระบบหาห้องออนไลน์และไต่แรงค์ทำได้ดีกว่าภาคที่แล้ว ภาคที่แล้วการจะเล่นไต่แรงค์ คุณต้องสร้างทีมใหม่ไปเข้าร่วมลีกส์ทางการของ Cyanide และเสียเวลากดหาคู่ต่อสู้แต่ละครั้งโคตรนาน (แถมเจอแต่พวกเขี้ยวลากดิน) ส่วนของภาคนี้จะมีปุ่ม Quick Play ให้กดหาคู่ต่อสู้ กดแปปๆไม่นานก็ได้เล่นแล้ว ยิ่งต่อไปจะมีการเพิ่ม Crossplay ข้ามแพลตฟอร์มด้วย ทำให้ผู้เล่นทั้งบน PC และ Console ไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว (โดยเฉพาะฝั่ง Console ที่คนเล่นน้อย)
- ระบบอัพสกิลผู้เล่นแบบใหม่ทำออกมาได้ดีกว่าภาคสอง ของเก่านั้นต้องทอยเต๋าเสี่ยงดวงเอาว่าจะอัพสกิลสายรองหรืออัพสเตตัสเพิ่มได้มั้ย ทำให้แม้แต่การปั้นผู้เล่นยังต้องใช้ดวงอะ แต่ภาคนี้เราสามารถอัพสกิลสายรองได้เลย แต่จะใช้แต้มสกิล SPP มากกว่าปกติ 2 เท่า ทำให้เราสามารถวางแผนปั้นผู้เล่นได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องหวังพึ่งดวง แต่ถ้าใครที่ชอบวัดดวง เกมก็เพิ่มระบบจ่ายแต้ม SPP ครึ่งเดียวแล้วสุ่มกาชาสกิลทุกอย่างในสายให้ ถ้าเราโชคดีก็อาจจะสุ่มได้สกิลที่ต้องการโดยเสียแต้ม SPP แค่ครึ่งเดียวจากปกติ แต่ถ้าดวงไม่ดีก็จะสุ่มได้สกิลขยะมาแทน
- เกมมีระบบ Blood Pass ซึ่งคล้ายกับ Battle Pass ในหลายๆเกม ถ้าคุณขยันเล่นเก็บแต้ม คุณก็จะได้รับของรางวัลเรื่อยๆ เมื่อเก็บแต้มจนเต็มก็จะปลดล็อคทีมใหม่ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ DLC เลย Blood Pass จะรีเซ็ตทุกๆ 3 เดือนหรือทุกๆซีซั่น เมื่อเริ่มซีซั่นใหม่ก็จะมีทีมใหม่มาให้เราเล่นปลดล็อคไปได้เรื่อยๆ แล้วก็มีแจกของรางวัลให้เมื่อผู้เล่นเลเวลอัพด้วย ของรางวัลก็จะมีทั้ง สีชุดใหม่ ลายชุดใหม่ แล้วก็ของ Customization ของทีมหลักทั้ง 12 ทีม ถือว่าใจป้ำมาก ถือเป็นรางวัลสำหรับคนขยันเล่น
- ระบบ Customization ภาคนี้เยอะกว่าภาคก่อนพอสมควร ในภาคสองเราสามารถปรับได้แค่สีชุดกับส่วนหัวของผู้เล่น เชียร์ลีดเดอร์ก็มีแค่ 3 แบบ สนามแข่งก็มีแค่ 6 แบบและไม่มีเอฟเฟคพิเศษอะไรเลย ส่วนของภาคนี้ผู้เล่นแต่ละคนสามารถปรับชิ้นส่วนร่างกายได้ 6 ส่วน เชียร์ลีดเดอร์ก็มีให้เลือกเท่ากับจำนวนทีม แล้วก็มีการเลือกโค๊ช เลือกลายบอล เลือกลายลูกเต๋า สีชุดของผู้เล่นก็แจกฟรี ไม่ต้องเสียเงินซื้อแบบภาคสอง
.
ข้อเสีย
.
- ทีมใหม่ทั้ง 7 ทีมที่มีภาพหลุดมา ส่วนใหญ่เห็นมีทั้งโมเดลผู้เล่นและภาพอาร์ตอะไรเสร็จสรรพแล้ว แต่ Cyanide วางแผนจะปล่อยอัพเดตซีซั่นละ 1 ทีมเท่านั้น (1 ซีซั่น = 3 เดือน) หมายความว่ากว่าเราจะได้เล่นทีมพวกนี้จนครบต้องรออีก 2 ปี! มันควรจะปล่อยอัพเดตไวกว่านี้ เพราะ Blood Bowl นั้นมีทีมเยอะมาก ถ้าปล่อยอัพเดตทุกๆ 3 เดือนแบบนี้ บางทีมเราคงได้เล่นในอีก 4 ปีข้างหน้า
- UI กับอนิเมชั่นภาคนี้แย่กว่าภาคสองชัดเจน UI มีสีม่วงสไตล์ Minimal แต่ดูแล้วไม่สบายตาเลย อนิเมชั่นภาคนี้หลายจุดดูรีบเร่งมากไปหน่อย ดูขาดอิมแพ็คกับความสะใจอย่างที่เคยมีในภาคสอง รวมถึงเสียงพากย์ของพิธีกรทั้งสองคนที่ยกของภาคสองมาใส่ทั้งดุ้น ไม่มีการลงทุนอะไรเลย
- มีการเปิดโชว์ Roadmap แสดงให้เราดูว่าจะมีอัพเดตอะไรเพิ่มบ้างในแต่ละซีซั่น นอกจากทีมใหม่แล้วก็มีอัพเดตระบบที่ขาดหายไปบางอย่างด้วย แต่ไอ้ระบบที่ว่านี่ก็ชวนให้ข้องใจว่ามันไม่ใส่มาตั้งแต่แรกหว่า เช่น ระบบดูรีเพลย์ ระบบ Pause เกม ระบบเชื่อมต่อกลับเข้าการแข่งขันเวลาหลุดเกม คือมันดูไม่ใช่ระบบที่ต้องมาอัพเดตเพิ่มทีหลังอะ
- โหมดเล่นคนเดียวภาคนี้ลูกเมียน้อยกว่าเดิม ทำออกมาเหมือนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก AI นี่โง่ยิ่งกว่าภาคสองอีก เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรเลย แต่ที่น่าตลกคือสนามแข่งที่มีเอฟเฟคพิเศษทั้งหลายตอนนี้สามารถเล่นได้ในโหมดแคมเปญเท่านั้น ไม่สามารถเลือกได้ใน Customization ทีมที่เราสร้างเองเพื่อใช้แข่งออนไลน์ได้ในตอนนี้ ทั้งที่โปรโมทไว้หนักมากแท้ๆ
- สกิลสายกลายพันธุ์ Mutation ไม่มี Visual แสดงให้เห็นบนตัวผู้เล่นเหมือนในภาคสอง ตอนภาคสองเราอัพสกิลอะไรร่างกายของผู้เล่นเราก็เปลี่ยนไปตามนั้นเลย เช่น อัพสกิลสองหัว Two Heads ผู้เล่นเราก็มีหัวงอกออกมาอีกหัว อัพสกิล Extra Arms ก็มีแขนงอกมาอีกข้าง แต่ภาคนี้โดนตัดทิ้งหมดเลย เข้าใจว่าอนาคตจะเอามาขายใน Shop ใครอยากได้ก็เสียเงินซื้อมาใส่เองนะ เหอๆ
.
สรุปคะแนน 6/10
ก็ถือว่าดีขึ้นมาหน่อยถ้าเทียบกับช่วง Pre Season พวกบัคอะไรทั้งหลายก็แก้ไปเยอะแล้ว เกมก็มี QoL เพิ่มมาหลายอย่าง ทำให้เกมสมูธขึ้นมาก ที่ยังขัดใจอยู่ก็มีแค่เรื่องโหมดเล่นคนเดียวกับระบบบางอย่างที่ยังขาดอยู่ เช่น ระบบสถิติหรือระบบดูรีเพลย์ ทางผู้พัฒนาคงทยอยอัพเดตให้แหละแต่ต้องใช้เวลา กว่าเกมจะสมบูรณ์ก็คงจะราวๆ Season 3-4 นู่นเลย ส่วนเกมตอนนี้แนะนำสำหรับคนที่อยากเล่นโหมดออนไลน์ซัดกับคนด้วยกัน แต่คงต้องเจ็บตัวเยอะหน่อยนะกว่าจะเล่นเก่ง ส่วนคนที่อยากเล่นคนเดียว ตอนนี้แนะนำไปซื้อภาคสองดีกว่า
.
เหมาะสำหรับ
- ผู้เล่นที่ชอบเกมสไตล์ Tabletop แต่ไม่อยากไปเล่นที่ร้าน
- ผู้เล่นที่ชอบ Warhammer Fantasy และเผ่าพันธุ์แปลกๆ
- ผู้เล่นที่ชอบความรุนแรง เล่นจริงเจ็บจริงตายจริง
Posted 26 February, 2023. Last edited 29 June, 2023.
Was this review helpful? Yes No Funny Award
 
A developer has responded on 27 Jul, 2023 @ 3:44am (view response)
< 1  2  3 >
Showing 1-10 of 28 entries