Baldur's Gate 3 เป็นภาคต่อจากเกม T-RPG ในตำนานอย่าง Baldur's Gate 2 โดย Bioware เมื่อหลายสิบปีก่อนโดยมีเนื้อเรื่องเชื่อมโยงห่างกันทั้งหมด 120 ปี เพราะฉะนั้นหากคุณไม่เคยเล่น BG1 หรือ 2 มาก่อนคุณก็สามารถเล่นรู้เรื่องได้ ไม่ได้มีการพูดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าบ่อยนัก เว้นแต่ 2 ตัวละครที่จะปรากฎตัวในภาคนี้เป็นตัวละครที่เราเล่นได้ในทั้งภาค 1 ,2 และ 3 นี้ด้วยถ้าคุณเคยเล่น เคยแตะ หรืออินกับเกมเหล่านั้น คุณอาจตื่นเต้นที่ได้เห็นพวกเขากลับมาก็ได้ (พร้อมกับเจ้าหนูแฮมสเตอร์คู่ใจ >w<)

เรื่องราวเริ่มมาจากที่ตัวละครของเรา (ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม) ถูกพวก Mind Flayer จับมาเพื่อขยายพันธุ์ แต่ในจังหวะนั้นได้มีเหล่า Githyanki ทำการโจมตียานของพวก Mind Flayer ทำให้ตัวละครของเรานั้นตื่นขึ้นมาจากโหลฟักตัวอย่างกระทันหัน ตัวละครของเราและผู้รอดชีวิตอีก 6 คน (ซึ่งเดี๋ยวจะพูดอีกทีว่ามีใครบ้าง) รอดมาได้พร้อมกับปรสิตพร้อมฟักตัวในหัวแต่กลับยังไม่เกิดการกลายร่างด้วยอานุภาพของวัตถุประหลาดที่ติดตัว Shadowheart หนึ่งในผู้รอดชีวิต กลุ่มของเราจังต้องหาทางเอาปรสิตนี้ออกให้ได้ก่อนที่มันจะเปลี่ยนให้พวกเรากลายเป็น Mind Flayer

ในการเล่น BG3 จะมีตัวละครที่เป็นสำเร็จรูปมี้เนื้อเรื่องและเควสส่วนตัวให้ทั้งหมด 6 ตัว + 1 ได้แก่
- Githyanki สาวที่ถูกพวก Mind Flayer จับมา ตัวเธอมีความต้องการที่จะเป็นอัศวินของ Vlaakith ราชินีของเธอเป็นที่สุด และมีความเชื่อในตัวของ Vlaakith ว่าเป็นพระแม่ของ Githyanki ทั้งปวง
- สาว Half Elf อาชีพ Cleric จาก Baldur's Gate ซึ่งได้รับภารกิจมาขโมยวัตถุประหลาดจากพวก Gith โดยที่ตัวเธอก็ไม่รู้เหตุผลของภารกิจนี้
- ชายหนุ่มคนดี อาชีพ Wizard จากเมือง Waterdeep ที่มีความลับบางอย่างที่ต้องใช้เวทย์มนต์ในการแก้ปัญหา และปัญหานั้นก็ดูจะหนักขึ้นในทุกๆวันเกินกว่าที่เขาจะรับไหว
- ผู้พิพากษาเผ่า Elf ผิวซีด อาชีพ Rouge จากเมือง Baldur's Gate ที่ถูกจับมาโดยที่ตัวเขาก็มีความลับบางอย่างที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้เพราะเขาไม่ใช่เอลฟ์ทั่วไปอย่างที่ใครมอง
- วีรบุรุษแห่ง Sword Coast อาชีพ Warlock ฉายา Blade of Frontiers โดย Wyll นั้นกำลังไล่ล่า Advocatus Diaboli หรือ Karlarch สมุนสงครามร้ายของจ้าวปีศาจ Zariel ที่ได้แผลงฤทธิ์ใน Baldur's Gate มาแล้ว
- Tiefling ผู้น่าสงสารที่เจ้านายของตัวเองทำสัญญาปีศาจส่งไปรับใช้จ้าวปีศาจ Zariel และถูกใช้เป็นสุนัขสงครามแต่ในตอนนี้เธอกลังจะเป็นอิสระ เพราะเธอสามารถหนีออกมาจากนรก Avernus ได้แล้วแต่กลับมีฮีโร่ฉายา Blade of Frontiers มาตามล่าเธอเพราะคิดว่าเธอเป็นปีศาจคลั่ง
- เรื่องราวของเขาเป็นยังไม่ไม่มีใครรู้ แม้แต่ตัวเขาเอง สิ่งที่เขารู้มีเพียงอย่างเดียวคือต้อง ฆ่า ฆ่า และ ฆ่า ความรุนแรงที่อยู่ภายใต้จิตใจเขาปะทุออกมาขึ้นในทุกวินาที เขาจำเป็นต้องหาความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
(ตัวละครนี้จะเป็นตัวละคร Original ที่แยกออกมาเผ่า Dragonborn อาชีพ Sorcerer แต่สามารถปรับแต่งได้ตามชอบทั้งหมดไม่เหมือนตัว Original ตัวอื่น โดยหากผู้เล่นไม่เลือกเขาจะไม่ปรากฎตัวในเกม หรือพูดง่ายๆก็คือเขาเป็นพระเอกตัวจริง เพราะหากเลือกตัวละครนี้เขาจะเป็นคนฆ่า Tav(หรือจะชื่ออะไรก็ตามแต่แล้วแต่ตั้ง) ซึ่งเป็นตัวละคร Custom ของผู้เล่นเองตายไปตั้งแต่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ในเกม)
- ใครก็ช่างแล้วแต่คุณจะคิด เผ่าอะไรก็ช่างแล้วแต่คุณจะเป็น อาชีพอะไรก็แล้วแต่ เพราะนี่คือตัวละครของคุณ ชื่ออะไรก็เรื่องของคุณเพียงแต่ชื่อเริ่มต้นของเขาคือ Tav ( Funfact : ชื่อแรกคือ Gustav โดยเป็นชื่อของหมาของ CEO Larian เองคุณ Swen Vincke >w<)
.
โดยแต่ละตัวละครก็จะมีบทพูดและอะไรต่างๆ ต่างกันไป event ที่ต้องเผชิญ เควสที่ต้องทำในบางเควสจะเปลี่ยนแปลงไปตามตัวละครเหล่านี้หรือหากคุณเป็น Tav ตัวละครเหล่านี้ก็จะมีเควสส่วนตัวของเขาที่ต้องไปช่วยพวกเขาทำให้สำเร็จ และคุณก็สามารถที่จะจีบพวกเขาทำผัว ทำเมีย ได้ตามอัชฌาสัยไม่ว่าคุณจะเป็นเผ่าอะไรก็ตาม เรียกได้ว่ารสนิยมเปิดกว้างกันจริงๆ LoL และสิ่งที่ทำให้มันยิ่งดูมีชีวิตชีวา คือการตอบสนองของเพื่อนร่วมทีมของคุณต่อเหตุการณ์ต่างๆที่บางตัว Overact จนหลุดขำได้เลยบางที ให้แนะนำก็คือหากเจอเหตุการณ์อะไรให้มาคอยคุยกับพวกเขาบ่อยๆครับ ไม่ใช่แค่จะได้มุมมองบางอย่างจากพวกเขาแต่จะเป็นการเพิ่มค่าความสัมพันธ์ด้วย
.
เนื้อเรื่องของ BG3 จะดำเนินไปตามตัวเลือกที่คุณเลือก คุณเป็นคนยังไง ช่วยใครไว้ ทำอะไรกับใครไว้ ทุกอย่างมีจุดรองรับทั้งหมด แม้กระทั่งเผ่าของตัวละครของคุณก็มีการส่งผลกับคนทั่วไปที่เขามองคุณ นี่คือความสนุกและ Replay Value ที่เกมอื่นให้ไม่ได้

เกมเพลย์ของ BG3 จะเป็นแบบ Turn base และใช้กฎของ DnD5e ทั้งการคำนวนค่าความเสียหาย การตัดสินว่าใครตีก่อน คำนวนค่าเกราะ Status สกิล แทบทุกอย่างใช้กฎของ DnD5e ทั้งสิ้น ถ้าคุณเคยเล่น DnD มาก่อนก็คงเข้าใจได้ไม่ยาก แต่หากเพิ่งมาเคยเล่นนี่ก็เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ทำความเข้าใจกับมันเพราะในบางจุด BG3 นั้นรวบรัดทำให้บางส่วนเข้าใจได้ง่ายขึ้น และตัดความยุ่งยากบางอย่างของกฎแบบกระด่านออกไป ให้พูดตามตรงมันเข้าใจไม่ยากเท่าไหร่ เอาเป็นว่าองค์ประกอบทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับการสุ่มเลขด้วยลูกเต๋า D ต่างๆพร้อมบวกค่า Proficiency , Bonus จาก Status , Bonus จาก Attribute , จาก Feat. และองค์ประกอบอื่นๆเพื่อให้ได้เลขตามที่กำหนด เช่น หากต้องการจะโจมตีศัตรูที่มีค่าเกราะ AC12 หมายความว่าระบบต้องทอยลูกเต๋า Attack Roll D20 ให้ได้ 12 แต้มหรือมากกว่าถึงจะโจมตีโดน ส่วนความเสียหายให้คำนวนจากอาวุธหรือเวทย์มนต์นั้นๆโดยจะมีบอกเช่น 2d4 หมายถึง ทอยลูกเต๋า 4 หน้า 2 ลูก โดยหากทอยได้ 4 ทั้ง 2 ลูกก็จะเป็น 8 Dmg เป็นตั้น และสิ่งที่ผมพิมพ์มานี้ก็ใช้กับสิ่งรอบตัวในฉากเช่นกัน คุณจะมองเห็นกับดัก ภาพลวงตา ศัตรูที่แอบอยู่ กล่องที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน ทั้งหมดอยู่ที่การทอยลูกเต๋าในค่าต่างๆเช่น Perception และ Investigation หากเป็นเวทย์มนต์ก็จะทอย Arcane หรือแม้กระทั่งการพูดคุย หากคุณต้องการขู่ผู้คน เจรจาให้ยอม หรือโกหก คุณต้องทอยลูกเต๋า Intimidation , Persuasion หรือ Deception เพื่อผ่าน Dialogue นั้น เป็นต้นครับ และแน่นอนครับเมื่อทุกอย่างมาจากการคำนวนและดวงในการทอยลูกเต๋าคุณจึงไม่จำเป็นต้องแปลกใจหากมันขึ้นว่าโอกาสโดน 99% พร้อมตัวหนังสือสีเขียวซึ่งบ่งบอกถึงว่าคุณได้ Advantage หรือในภาษาไทยคือ " ได้เปรียบ " ซึ่งหมายถึงทอยลูกเต๋า 2 ลูกและเลือกลูกที่มากที่สุดแล้วคุณยัง Miss เพราะมันมากจากการสุ่มเลขทอยลูกเต๋าไม่ได้มากจากการคำนวนทางสถิติทาง %
( Advantage ทอย 2 ลูกเลือกลูกมากสุด l Disadvantage ทอย 2 ลูกเลือกลูกน้อยสุด)

เพลง เสียงพากย์ ทุกอย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะเพลงที่ทุกคนกล่าวขานว่าแม่งสุดจัดอย่าง Final Act ของ Raphael แม่งโคตรดี เสียงพากย์ก็แทบไม่ต้องพูดถึง นักแสดงทุกคนทำได้ดีมากๆในทุกตัวละคร Luv Luv Forever

หัวข้อนี้จะพูดถึงความเป็น DnD ที่เกมนี้นำเสนอมาได้อย่างน่าประทับใจ ให้พูดคือ Dungeons & Dragons คือเกมสวมบทบาทที่ทุกอย่างอยู่ที่ตัวผู้เล่น คุณจะเป็นใคร มาจากไหน คิดยังไง ผู้เล่นเป็นคนตัดสินใจแลเกมนี้ก็นำเสนอมาได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่แค่นั้นในด้านของ Lore เกมนี้ทำสภาพแวดล้อม ตัวเลือก และการปฏิสัมพันธ์ออกมาได้ตามที่มันควรจะเป็น เช่นคุณเป็น Drow เอลฟ์จาก Underdark ที่คนทั่วไปมองว่าชั่ว บทพูดของผู้คนทั่วไปเมื่อคุณช่วยพวกเขาก็อาจเป็นการขอโทษคุณที่เขามองคุณไม่ดีและตัดสินคุณไปจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่หากเป็นพวก Goblin เขาจะไม่ทำร้ายคุณและปล่อยผ่านเลยเพราะคิดว่าเป็นพวกเดียวกันหรือสูงส่งกว่า หรือแม้กระทั่งการเลือก Dialogue ตอบคำถามก็จะมีตัวเลือกคำตอบพิเศษที่มากมายที่มาจากเผ่าของคุณ อาชีพของคุณ หรือหลักฐานจากการอ่านหนังสือหรือจดหมายต่างๆ หรือกระทั่งถ้าคุณเป็น Cleric ก็จะมีคำตอบตามเทพเจ้าที่คุณนับถือ หรือ Paladins ที่คุณสามารถทำตัวเป็นศาลขอความจริงจากทั้ง 2 ฝ่ายและตัดสินด้วยตัวคุณเอง นี่คือความเป็น DnD ความเป็นตัวคุณหรือตัวละครของคุณที่เกมให้โอกาสคุณในการได้เล่นมัน และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ DM นั่นเอง คุณอาจสงสัยว่า BG3 มี DM ด้วยหรอ ตอบว่าไม่มีหรอกครับ แต่เขามี Narrator หรือก็คือคนเล่าเรื่อง มันให้อารมณ์เหมือนกับคุณเล่นบนกระดานแล้วจะมี DM คอยบอกคุณว่าที่คุณเห็นมันคืออะไร คนตรงหน้าคุณรู้สึกยังไงอยู่ และใน BG3 มีเสียงของคนเล่าคอยบอกทุกอย่างกับคุณ มันคือความเป็น DnD อย่างแท้จริง
.
นี่คือเกมเดียวในโลกที่ได้รับชัยชนะในทุกเวที Game of the year ส่งรางวัลไหนก็ชนะและมันก็คู่ควรกับตำแหน่งของมันอย่างที่สุดเพราะเกมที่ BG3 ชนะมาได้นั้นในปีที่ผ่านมาไม่ใช่เกมไก่กา แต่เป็นเกมคุณภาพแทบทั้งสิ้น และ Larian ก็สามารภทำให้เกมนี้ถึงฝั่งฝัน และเพิ่มจำนวนของคนที่สนใจใน DnD ขึ้นอย่างมากโข ขอบคุณ Larain จากใจเลยครับ <3